ริมฝีปากแห้ง แตก ทำยังไงดี???
หลายๆคนเคยประสบปัญหา ริมฝีปาก แตก แห้ง กัน ซึ่งหลายคนอาจจะแก้ปัญหาไม่ถูกจุด เนื่องจากไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่ามีสาเหตุใดบ้างที่ทำให้ปากแตก แห้ง กัน
สาเหตุที่ทำให้ ริมฝีปากแห้ง?
การเลียริมฝีปาก ปกติเวลารู้สึกปากแห้ง บางคนอาจจะเลียริมฝีบาง หรือเม้มปากให้รู้ชุ่มชื้นขึ้น แต่จริงๆแล้วการทำเช่นนั้นจะทำให้ริมฝีปากยิ่งแห้งแตกมากขึ้น เนื่องจากเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายมีฤทธิ์ทำลายความชุ่มชื้นของริมฝีปากได้
อากาศแห้ง อากาศในฤดูหนาว อากาศจะแห้งลมพัดแรง ทำให้ความชื้นถูกพัดพาออกจากริมฝีปากไป, อากาศร้อนบวกกับลมที่พัดแรง ก็ส่งผลให้ริมฝีปากขาดความชุ่มชื้นได้, อีกทั้งการถูกรังสีอัลตราไวโอเลตและความร้อนจากแสงแดดเป็นเวลานาน ยังส่งผลทำให้เซลล์ขาดความยืดหยุ่น ทำให้ริมฝีปากแห้งและแตกได้, อากาศเย็นและแห้งในห้องแอร์ก็เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากแห้งได้ ซึ่งสาวๆที่ทำงานกันในออฟฟิตจะทราบถึงปัญหาดังกล่าวได้เป็อย่างดี
การดื่มน้ำน้อยเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง ริมฝีปากเรามีต่อมไขมันซึ่งเหมือนๆกับผิวหนังส่วนอื่นๆของคนเรา ซึ่งการที่ริมฝีปากของเราแห้ง เป็นสัญญาณบอกว่าร่างกายของเราขาดน้ำ ถ้าในแต่ละวันเราดื่มน้ำไม่เพียงพอ ปากเราก็จะแห้งได้ง่าย ดังนั้นเราควรจะดื่มน้ำบ่อยๆเพื่อรักษาความชุ่มชื้นอยู่เสมอ
การขาดสารอาหาร เช่น ขาดวิตามิน C จนทำให้เป็นโรคลักปิดลักเปิด ขาดวิตามิน B จนทำให้เป็นโรคปากนกกระจอก ซึ่งทำให้ปากแห้งและผิวหยาบ
วัยที่มากขึ้น ต่อมเหงื่อ ต่อมไขมันจะทำงานได้น้อยลง เช่นกลุ่มคนวันสูงอายุ วัยทอง ทำให้ปากแห้งได้ง่ายกว่าวัยหนุ่มสาว
ลิปสติก ที่มีส่วนประกอบทำให้เกิดปัญหา เช่น สี น้ำหอม กลิ่น สารให้ความชุ่มชื้น menthol ลาโนลิน สารกันแดด สารกันบูด หรือ โลหะที่ผสมอยู่ในลิปสติก ซึ่งสารในลิปบาล์มทั่วไปจะมีสารที่มีคุณสมบัติดูดความชื้นของริมฝีปาก จนทำให้ต้องทาลิปบาล์มอยู่บ่อยๆ
ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ยาสีฟันที่มีสาร Sodium Lauryl Sulfate : SLS ซึ่งเป็นสารที่ช่วยลดแรงตึงผิวของน้ำ แอลกอฮอล์ สารทำให้เกิดฟอง สารสร้างความสดชื่น ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้ปากแห้งแตกได้
การกินผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด หากมีอาการปากแห้งแตกอยู่แล้ว การทานผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรดเช่น ส้ม สับปะรด อาจจะยิ่งทำให้เกิดอาการระคายเคืองมากยิ่งขึ้น ปากแห้งแตกมากยิ่งขึ้น
การรับประทานยาบางชนิดในช่วงที่มีการรักษา เช่นยาทานรักษาสิว Accutane, Propranolol ในยาลดความดัน ทำให้มีอาการปากแห้งได้
สาเหตุอื่นๆ เช่น การสูบบุหรี่, การดื่มแอลกอฮอล์, ยาทาเล็บในรายที่มีนิสัยชอบกัดเล็บ เป็นต้น
วิธีรักษา ริมฝีปากแห้ง ?
รู้สาเหตุของปัญหา หากเราทราบสาเหตุของปัญหาปากแตก เราก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด เช่น ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นคนชอบเลียริมฝีปาก เราก็ควรที่จะลดหรือเลิกพฤติกรรมนั้น ถ้าดื่มน้ำน้อยก็ควรจะดื่มน้ำให้มากขึ้น
ดื่มน้ำเป็นประจำ ดื่มน้ำวันละ 8-10 แก้ว อย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว
สครับปาก ผลัดเซล์ผิว เมื่อคุณปากแห้ง แต่ปากไม่แตก เนื่องจากมีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเกาะอยู่บนริมฝีปาก ซึ่งนำไปสู่ริมฝีปากที่คล้ำได้ ดังนั้น คุณควรจะสครับริมฝีปากด้วย lip scrub แล้วตามด้วยลิปมันบำรุงผิวอีกที
ทาลิปบาล์มที่ทำจากธรรมชาติเป็นประจำ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นและไม่เกิดอาการระคายเคือง แต่หากบางคนที่ไม่แพ้วาสลีนหรือปิโตรเลียมเจล ก็สามารถจะใช้วาสลีนแทนได้
ทาปากด้วยน้ำผึ้งแท้ คุณสมบัติของน้ำผึ้งนั้นจะช่วยรักษาอาการปากแห้งแตก และช่วยให้ความชุ่มชื้นแก้ผิว ง่ายๆแค่คุณเอาน้ำผึ้งมาทาปากเป็นเวลา 10 นาที จากนั้นก็ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นๆเช็ดออกเบาๆ
ก่อนล้างหน้าให้ทาลิปบาล์มก่อน เนื่องจากฤทธิ์ด่างของสบู่ชำระความชุ่มชื้นของริมฝีปากออกไปด้วย
เลี่ยงการเลียริมฝีปาก แม้ว่าการเลียริมฝีปากดูเหมือนจะช่วยให้ปากชุ่มชื้นขึ้น แต่จริงๆแล้วน้ำลายจะทำให้ริมฝีปากนั้นแห้งและแตกมากขึ้น ดังนันจึงควรเลี่ยงการเลียริมฝีปาก
เลือกรับประทานอาหารให้ถูกหลัก รับประทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินบี เช่น ข้าวกล้อง, ผักใบเขียว เป็นต้น รวมไปถึงวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เพื่อช่วยให้ผิวของเราชุ่มชื้น ริมฝีปากอวบอิ่ม ดูเปล่งปลั่ง
ทาด้วยน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก น้ำมันมะพร้าว โจโจบา ฯลฯ ซึ่งจะช่วยให้ความชุ่มชื้น แต่ได้ภายในไม่กี่ชั่วโมง
ลดการดื่มชากาแฟ ชา กาแฟ นั้นทำให้ผิวแห้งได้ เนื่องจากมันจะทำให้เราขับน้ำออกจากร่างกาย ซึ่งการดื่มชาหรือกาแฟ ไม่สามารถแทนการดื่มน้ำเปล่าได้